วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

งานผู้ช่วยบริการในปาร์ตี้ (Party Helper)

ที่อเมริกานี้ช่างมีงานเลี้ยงมากมายหลายหลากเสียจริง! นับตั้งแต่งานเทศกาลหลักๆคือ Christmas, Thanksgiving, New year งานเทศกาลต่างๆ ของชาวยิวและอินเดีย (ในอเมริกามีชาวยิวและอินเดียเยอะมากมากค่ะ) เช่น Passover, Chanukah, Eid-UL-Fitr รวมถึงงานที่ไม่ใช่เทศการอื่นๆเช่น งานวันเกิด, งานครบรอบต่างๆ, งาน Baby Shower โอ้สารพัดจะเลี้ยงกัน มีอยู่ตลอดทั้งปี เรานั้นหรือ เคยมีประสบการณ์ช่วยในงานเลี้ยงของทั้งคน อินเดีย, ยิว, และอเมริกัน เลยอยากจะมาเล่าให้คนที่สนใจอยากลองรับจ๊อบปาร์ตี้แบบนี้ดู เผื่อเป็นประโยชน์บ้างค่ะ อ่านต่อทางนี้ค่ะ



วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

ช่างทำเล็บในอเมริกา


 ช่างทำเล็บเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจในอเมริกาค่ะ รายได้ดี โดยเฉพาะสาวoffice จะต้องเข้าออก ใช้บริการร้านทำเล็บเป็นประจำ เราเป็นคนหนึ่งที่สนใจอยากลองทำ part time อาชีพนี้ดู เพราะเห็นราคาค่าบริการแล้วคิดว่าน่าจะทำรายได้ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ลูกค้าเข้าร้านทีไม่ต่ำกว่า 20 เหรียญ แถมบางทีหอบเด็กๆมาทำอีก (เคยเห็นบางคนแค่เอาเด็กมาตัดเล็บ!) คราวนี้เราขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพนี้ไปพร้อมกับเล่าประสบการณ์ของเราไปด้วยกันเลยนะคะ

ส่วนใหญ่ชนชาวเวียดนามจะเป็นเจ้าของกิจการทำเล็บค่ะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเป็นชาวเวียดนามนะค่ะ จากการสอบถามร้านหนึ่งก็ได้รู้ว่า คนที่ทำงานในร้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูงกันทั้งนั้น และคนเวียดนามจะเข้าอเมริกามาได้ง่ายมากค่ะ โดยจะขอเข้ามาในนามผู้อพยบ (Refugee) ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่าพอคนในร้านมีเงินเก็บมากพอแล้ว ก็คงไปเปิดร้านเองกระมัง อ่านต่อทางนี้ค่ะ



วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

ล่าม อีกอาชีพน่าสนของคนเก่งภาษา



 

ได้มีโอกาสเข้าไปอ่านบทความนี้ในเว็บไชต์ และคิดว่าเป็นอาชีพนึงที่คนไทยที่มีทักษะความเชี่ยวชาญหลายภาษาสามารถทำได้ อาชีพนั้น คือ อาชีพล่าม นั้นเอง วันนี้ ลองรู้จักอาชีพล่ามกันดูว่า กว่าจะมีทักษะมากพอที่จะทำอาชีพนี้ได้ดีต้องมีหนทางอย่างไร

 





อาชีพล่าม คืออีกอาชีพที่น่าสนใจมากค่ะ

ว่ากันว่า “ล่าม” เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่รายได้ดี ถึงดีมาก แต่แน่นอน ถ้าเรียนมาง่ายๆ ใครๆก็สามารถเป็นล่ามที่ดีได้ ผลตอบแทนคงไม่สูงขนาดนี้ รายได้ของของอาชีพล่ามนั้นจะขึ้นอยู่กับภาษาและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ลองรู้จักอาชีพล่ามกันดูว่า กว่าจะมีทักษะมากพอที่จะทำอาชีพนี้ได้ดีต้องมีหนทางอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับอาชีพนี้เสียก่อน “ล่าม” เป็น อาชีพเกี่ยวข้องกับภาษา ทำหน้าที่ใช้ความรู้ทางภาษาในการแปลจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่ง ในระหว่างการสนทนา อ่านต่อทางนี้ค่ะ


10 อันดับงานที่น่าทำที่สุดในอเมริกา ปี 2012



ได้มีการจัด10 อันดับงานที่น่าทำที่สุดในอเมริกา ปี 2012 โดยเว็บหางานชื่อดัง CareerCast ได้ทำการจัดอันดับโดยใช้หลักเกณฑ์  รายได้, สภาพแวดล้อมในการทำงาน, ความต้องการในตลาดแรงงาน, ความเหน็ดเหนื่อยทางร่างกาย และความเครียด ซึ่งอาชีพที่ได้คะแนนรวมอันดับที่ 1 ในปี 2012 นี้ ยังคงเป็น ตำแหน่ง Software Engineer ที่ได้อันดับ 1 ในปีที่แล้ว ยังคงรักษาตำแหน่งนี้ได้อย่างเหนียวแน่น

ตำแหน่งงาน Software Engineer ในอเมริกา ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ $88,142 ต่อปี (ประมาณเดือนละ 220,000 บาท) ซึ่งถึงแม้รายได้จะเป็นรองอาชีพอย่างแพทย์หรือทนายความ แต่ระดับความเครียดนั้นไม่สูงเท่า มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ใช้แรงงานน้อย และมีความต้่องการจำนวนสูงมาก


สำหรับ 10 อันดับงานที่น่าทำสุดในอเมริกา ปี 2012  พร้อมรายได้เฉลี่ยต่อปีมีดังนี้ อ่านต่อทางนี้ค่ะ



พนักงานทำแซนวิช (Sandwich maker)

ได้มีโอกาสทำงานร้าน Subway เนื่องจากการแนะนำของรุ่นพี่คนนึง ทางร้านต้องการหาคนทำงาน Part-time ตอนนั้นเราว่างอยู่พอดี ก็เลยลองไปสมัครดู ปรากฎว่าได้ค่ะ เค้าคงดูจากหน่วยก้าน และหน้าตา 55

ด้วยความที่เราไม่เคยรู้จักร้าน Subway มาก่อน  ไม่เคยแม้แต่เข้าไปลิ้มลองความอร่อย ตามที่ในโมษณาพูด Eat Fresh  คนอเมริกาส่วนใหญ่จะรู้จักร้านนี้ดีค่ะ เนื่องจากร้านนี้เค้ามีการโฆษณาเป็นเริ่ด อ่านต่อทางนี้ค่ะ


วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

งานนวด (Thai massage)



ปัจจุบัน งานนวด (Thai massage) เป็นที่นิยมกันในหมู่คนไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกา ทำให้ธุรกิจการบริการนวดและสปาจึงผุดขึ้นมาอย่างมาก และที่สำคัญ งานนวด เป็นงานที่ทำเงินได้อย่างดีมากทีเดียวค่ะ คนไทยหลายคนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้เพราะงานนี้


คนอเมริกันหลายคนชอบการนวดแบบไทย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย พวกเขาเชื่อว่าการที่ถูกนวดจากมืออาชีพของประเทศต้นตำรับการนวด ย่อมจะได้ผลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่เฉพาะคนอเมริกันนะค่ะ ที่ชอบการนวด คนไทยในอเมริกาเอง ก็ชอบเหมือนกันค่ะ แต่ส่วนใหญ่คนไทยที่นี้จะหาเวลาไปนวดได้ยาก เพราะภาระกิจการงานที่ต้องทำตลอดทั้งวัน รวมถึงค่านวดอันแสนแพงในอเมริกา เรียกได้ว่าได้ค่าจ้างมากกว่าหลายๆอาชีพซะอีก คนไทยหลายคนเกิดมีปัญหาสุขภาพขึ้นมาเมื่อไหร่ ถึงจะได้ไปหาหมอนวด อ่านต่อทางนี้ค่ะ



วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

คนส่งอาหาร (Delivery)

ในร้านอาหารไทยทั่วไปในอเมริกาจะมีตำแหน่งงานมากมายให้คนไทยได้ทำกัน เช่น พนักงานเสริฟ พ่อครัวแม่ครัว โฮสเทส และยังมีอีกหนึ่งตำแหน่งที่ทำงานนอกร้านค่ะ เรียกได้ว่า เป็นตำแหน่งที่สามารถทำเงินได้ไม่น้อย นั่นก็คือ คนส่งอาหาร หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "Delivery"  ค่ะ

คนทำงาน Delivery นี้ จะมีหน้าที่คอยส่งอาหารไทย ที่ลูกค้าสั่งเมนูมาทางโทรศัพท์  ส่วนใหญ่พนักงานในร้านหรือโฮสเทสจะทำการรับออเดอร์จากลูกค้าที่โทรศัพท์มาเอง 

เราเคยมีโอกาสเข้าไปทำงานนี้เหมือนกันค่ะ คือได้ทำด้วยความบังเอิญจริงๆ เนื่องจากคนทำงานประจำตำแหน่งนี้ รถเขามีปัญหาไม่สามารถมาทำงานในวันนั้นได้ เราว่างพอดีก็เลยได้เสียบตำแหน่งนี้แทนค่ะ อ่านต่อทางนี้ค่ะ 

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

10 อันดับ งานสกปรกที่ให้ผลตอบแทนสูงในอเมริกา



เว็บ Howstuffworks ได้จัดอันดับ 10 งานสกปรกที่ให้ผลตอบแทนสูงในสายตาคนอเมริกัน เพราะเป็นงานที่ทำให้เนื้อตัวเปรอะเปื้อน แต่ให้ผลตอบแทนดี










1. พนง.ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุ



งานนี้แม้จะต้องเจอกับความสกปรกของเลือด ศพผู้เสียชีวิตที่อาจจะอยู่ในรูปแบบทั้งตัวหรือแยกชิ้นส่วน และอาจจะใช้เวลาเพียงสองสามชั่วโมงหรืออาจจะกินเวลาถึงสองสามวัน แต่รับรองว่า ไม่เคยมีใคร ได้ยินเสียงบ่นออกมาจากปากของเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดที่เกิดเหตุแน่นอน เพราะเป็นอาชีพที่ทำเงินได้ปีละประมาณ 75,000 ดอลลาร์ หรือ 2,325,000บาท โดยผู้ทำงานนี้ ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับปริญญาหรือระดับวิทยาลัยด้วยซ้ำ แต่หากมีประสบการณ์และมีความละเอียดรอบคอบในการทำงาน เรียกว่า เก็บกวาดเรียบร้อย อาจจะมีรายได้เป็นตัวเลข 6 หลักเลยทีเดียว อ่านต่อทางนี้ค่ะ

2. ช่างประปา



การดำเนินชีวิตในโลกสมัยใหม่ของชาวอเมริกัน โดยไม่มีช่างประปาเป็นช่างประจำบ้าน ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหัวของอเมริกันชน และถือเป็นอาชีพที่ทุกครัวเรือนขาดไม่ได้ และแม้ว่าลักษณะงานจะเป็นลักษณะคลุกฝุ่น ทำงานด้านหลัง หรือในหลืบในซอกใดซอกหนึ่งของบ้าน แต่ช่างประปาก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้เจ้าของอาชีพระหว่าง 35,000 -40,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 1,085,000-1,240,000 บาท


3.เจ้าหน้าที่แต่งศพ



การแต่งศพให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถือเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ถือเป็นวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาช้านานในวัฒนธรรมของแทบทุกประเภท แต่ลักษณะงาน เป็นงานที่มีบรรยากาศเงียบเชียบ เย็นยะเยียบ แถมออกจะเป็นงานที่ค่อนข้างส่วนตั๊ว ส่วนตัวเพราะมีแต่ผู้แต่งศพกับศพเท่านั้น แต่อาชีพแต่งศพก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้ได้น่าสนใจ โดยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 41,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 1,271,000บาท


4. คนงานเหมือง



งานเหมืองนั้น เป็นงานที่สกปรกเพราะต้องอยู่กับดิน หิน สินแร่ประเภทต่างๆ อยู่ในถ้ำ อยู่ใต้ดิน เรียกว่าเป็นงานที่ผู้ทำเหงื่อไหลไคลย้อยตลอดเวลาก็ว่าได้ แต่ก็เป็นงานทำเงินดี ยกตัวอย่างในเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมถ่านหินขนาดใหญ่ คนงานเหมืองมีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ64,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,984,000 บาท


5. คนงานลอกท่อ




ธรรมชาติของงานลักษณะนี้ต้องเจอกับหนู แมงสาบ ทางเดินที่มืดมิดและเผลอๆบางครั้งอาจโชคดีเจอศพนิรนาม แถมเป็นงานที่ผู้ทำต้องอยู่ในที่อันจำกัด คับแคบเป็นเวลานาน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกทุกชนิดออกจากท่อน้ำทิ้งเหล่านั้น แต่เป็นงานที่มีรายได้ต่อปีกว่า 60,000 ดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,860,000 บาท ที่สำคัญ มีคนจำนวนไม่น้อย แม้ไม่ชอบทำงานลักษณะนี้ แต่ก็ยกย่องผู้ทำอาชีพนี้ว่าเป็นอาชีพอันทรงเกียรติในฐานะที่ช่วยให้ทางเดิน ของน้ำไร้สิ่งอุดตัน และถนนหนทางสะอาดสะอ้าน


6.ชาวประมงจับปู



ชาวอเมริกัน มองว่า อาชีพชาวประมงจับปู เป็นอาชีพเสี่ยงภัยที่สุด และเป็นอาชีพที่มีโอกาสเสียชีวิตสูง ส่วนหนึ่งเพราะการออกไปจับปูนั้น ชาวประมงต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นทั้งของน้ำและอากาศรอบตัว เผลอๆอาจเจอพายุลูกใหญ่ แถมปู ยังเป็นสัตว์ที่มีก้ามที่มีหนามแหลม ที่พร้อมจะทิ่มแทงคนจับ หากไม่มีความชำนาญพอ เรียกว่า มีโอกาสเจ็บตัวเพราะอาชีพได้ตลอดเวลา แถมเป็นอาชีพที่ใช้เวลานานอาจจะเป็นทั้งคืน หรือทั้งวันในการจับปู แต่เป็นงานที่ได้ค่าตอบแทนดีทีเดียว เพราะในแต่ละปี ชาวประมง ออกจับปูแค่ไม่กี่เดือนก็สามารถมีรายได้ประมาณ 60,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,860,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเรือประมงนั้นๆจับปูได้มากน้อยแค่ไหน


7. พนักงานทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่



แน่นอนอยู่แล้วว่า อาชีพนี้ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของใครต่อใคร เพราะต้องอยู่กับสิ่งปฏิกูลจากร่างกายของมนุษย์ อยู่กับกลิ่นที่เหม็นตลอดเวลา แถมต้องเจอกับกลิ่นของสารเคมีที่ใช้ชำระล้างทำความสะอาดสุขาอีกต่างหาก แต่อาชีพนี้ก็ สร้างรายได้ให้แก่คนทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่ปีละ 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,550,000 บาท


8. คนงานขุดเจาะน้ำมัน



ธรรมชาติของการทำงานลักษณะนี้ ทั้งสกปรกและอันตราย แถมยังเป็นงานที่ผู้ทำต้องออกไปใช้ชีวิตอยู่กลางทะเลลึก ไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือ ความรู้สึกว่าถูกจำกัดพื้นที่ ที่ค่อนข้างเป็นงานที่สวนทางกับธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ ที่เป็นสัตว์สังคม แต่ก็เป็นงานที่ให้ผลตอบแทนสูงทีเดียว เพราะแม้แต่คนที่มีทักษะต่ำๆ ยังมีรายได้ต่อปีกว่า 40,000 ดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ1,240,000 บาท และหากมีดีกรีระดับวิทยาลัยรายได้ก็จะสูงกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อไปทำงานขุดเจาะน้ำมันในต่างประเทศ


9.หมอสวนทวาร



อาชีพนี้เป็นอาชีพที่หนักหนาสาหัสที่สุดในสายตาคนทั่วไป ไม่เฉพาะชาวอเมริกัน เพราะอาชีพนี้ต้องทำงานกับอวัยวะที่เป็นตัวผ่านของสิ่งปฏิกูลของร่างกาย มนุษย์ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย แถมเป็นอาชีพที่ผู้เข้าไปใช้บริการมักจะเกิดอาการกระอักกระอ่วน เขินอาย บางครั้งถึงขั้นประหม่า ทำให้เป็นอุปสรรคเล็กๆต่อการทำงาน แต่ก็เป็นอาชีพที่รายได้ดี โดยหมอสวนทวารชาวอเมริกันมีรายได้เฉลี่ยต่อปี ระหว่าง 250,000-400,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,750,000-12,400,000 บาท


10. คนเก็บขยะ



ขยะเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ไม่พึงปรารถนา แต่เป็นผลผลิตของมนุษย์ทุกคนบนโลก และคนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่า ภาระของตนเกี่ยวกับขยะจบลงเมื่อนำขยะนั้นๆไปทิ้งลงถัง แต่สำหรับผู้มีอาชีพเป็นคนเก็บขยะแล้ว งานของเขาเพิ่งจะเริ่มต้น และเขาเหล่านี้ ต้องจัดเก็บ แยกขยะ และนำไปทำลายให้ถูกวิธี ซึ่งแน่นอนว่า กระบวนการต่างๆเหล่านี้ มีความเสี่ยงต่อชีวิต เสี่ยงต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน กรณีที่ขยะเหล่านั้น มีการปนเปื้อนเชื้อโรคร้ายต่างๆ หรือของมีคมหลากชนิด

แต่แม้ว่าจะเป็นงานสกปรก อันตราย และต้องอยู่กับกลิ่นเหม็นๆตลอดเวลา แถมยังเป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้น เพราะขยะไม่มีวันหมดไปจากโลก ตราบใดที่โลกใบนี้ยังมีมนุษย์ แต่รายได้เฉลี่ยของผู้มีอาชีพนี้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 43,000 ดอลลาร์หรือประมาณ1,333,000 บาท และเมื่อคิดเฉลี่ยเป็นชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 16.04ดอลลาร์ หรือประมาณ 497.24 บาท และหากมีล่วงเวลา รายได้ต่อปีก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,860,000 บาท

ขอบคุณแหล่งที่มา howstuffworks.com และ กรุงเทพธุรกิจ

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

พนักงานต้อนรับ (Hostess)


Hostess นี้ถือเป็นหน้าที่หนึ่งที่น่าสนใจในร้านอาหารค่ะ จะพบได้ในตามร้านอาหารขนาดค่อนข้างใหญ่ หรือร้านอาหารที่มีลูกค้ามาก เราจะเห็นเขาก่อนเป็นคนแรกเมื่อเดินเข้าร้าน เขาจะเป็นคนยืนยิ้มต้อนรับเรา แล้วพามาที่นั่งที่โต๊ะค่ะ โดยปกติแล้วพนักงานเสริฟ (Server) จะทำหน้าที่นี้ แต่บางทีถ้ามีคนเข้าร้านมากๆ พนักงานเสริฟก็จะวุ่นวาย วิ่งเข้าออกครัวจนอาจไม่ทันสังเกตุเห็นลูกค้าใหม่ที่เข้ามา และถ้าลูกค้าเขายืนรอนาน ไม่มีใครมารับไปนั่งเสียที เขาอาจเกิดโมโหหิวก็เป็นได้ ดังนั้นเจ้าของร้านเลยต้องจ้าง Hostess มาเพื่อการนี้ค่ะ อ่านต่อทางนี้ค่ะ






วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กว่าจะมาเป็นออแพร์ในอเมริกา

กว่าเราจะมาเป็นออแพร์ที่อเมริกาได้  ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรค่ะ เนื่องจากตอนนั้นยังทำงานประจำกับบริษัทอยู่ (ติดสัญญากับบริษัท 2 ปี) ที่ทำงานก็อยู่ที่ประจวบ จะเดินทางมากรุงเทพ(เพื่อติดต่อเรื่องออแพร์) ครั้งนึงก็ค่อนข้างลำบากพอสมควร  แต่หลังจากที่ครบสัญญากับบริษัทแล้ว  เดินเข้าไปบอกกับหัวหน้างานเลยค่ะว่า " ขอลาออก" ตอนนั้นยังไม่แน่ใจกับชีวิตตัวเองเลยว่าจะเป็นอย่างไร ไม่มีงานประจำต้องทำแล้ว  รู้สึกเหวงๆ บอกไม่ถูก แต่ให้ทำอย่างไรได้ เมื่อตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตตัวเองแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป

หลังจากที่ออกจากงานประจำมาแล้ว ก็เข้าไปจัดการติดต่อกับ เอเจนซี่ออแพร์  ในตอนนั้นเจ้านี้ถือว่าถูกสุดค่ะ (ตอนนั้นคำนึงถึงเรื่องเงินเป็นหลักค่ะ ที่นี้ถึงแม้คนจะน้อย แต่ก็ให้บริการดีมากๆ) พอได้รู้แล้วว่าจะสมัครออแพร์ได้ต้องทำอย่างไร ก็ลุยเลยค่ะ เริ่มจากเรื่องเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กก่อน ตอนนั้น ไปมาระหว่างเชียงใหม่-ชลบุรี  ก็เลยถือโอกาสเทรนงานเลี้ยงเด็กที่เชียงใหม่ และ ชลบุรี ซะเลยค่ะ อ่านต่อทางนี้ค่ะ



ออแพร์ในอเมริกา (Thai Aupair)


เรามาอเมริกาได้ เพราะ โครงการออแพร์ (Aupair) ค่ะ จะว่าไปก็เกือบ 4 ปีแล้วที่อยู่อเมริกาตลอด โดยไม่ได้กลับไปบ้านเลย อาจจะเป็นเพราะความจำเป็นหลายๆอย่างค่ะ ทำให้ต้องดิ้นรน หางาน หาเงิน ในอเมริกาจวบจนทุกวันนี้

วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องออแพร์ดีกว่าค่ะ เพราะมีคนเข้ามาถาม
เยอะเหลือเกินเกี่ยวกับโครงการออแพร์ ก็จะขอเล่าคร่าวๆแล้วกันนะค่ะ เพราะด้วยความที่เคยเป็นออแพร์มาหลายปีแล้ว บางเรื่องอาจจะลืมไปแล้ว ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ อ่านต่อทางนี้ค่ะ




งานรับเลี้ยงเด็ก (Nanny /Babysitter)


งานนี้เป็นอาชีพนึงที่สามารถทำเงินได้ในอเมริกาค่ะ เนื่องจากคนอเมริกาต้องดูแลลูกกันเอง โดยที่ไม่หวังพึ่งปู่ ย่า ตา ยายให้เลี้ยงลูก และตามกฎหมายที่นี่ไม่อนุญาติให้เด็กต่ำกว่า 13 ปีอยู่บ้านตามลำพัง ดังนั้นจึงเป็นช่องทางให้คนต่างถิ่นอย่างพวกเราทำมาหากินได้ 

บางครอบครัวมีเด็กแรกเกิด ต้องการคนมีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก เพื่อช่วยเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน งานที่ต้องทำโดยส่วนมากก็ป้อนนมน้อง ล้างขวดนม ทำอาหารเหลวให้น้อง อันนี้เราอาจต้องช่วยพ่อแม่เขาทำงานบ้านด้วยค่ะ (ในกรณีที่มีลูกคนเดียว) เพราะเด็กหลับที 3-5 ชั่วโมงค่ะ เรียกว่าตื่นมากันแล้วนอนต่อ อ่านต่อทางนี้ค่ะ


พนักงานเสริฟในอเมริกา (Thai Server)



เป็นอาชีพนึงที่ทำกันมาก ถึงมากที่สุด คนทำงานนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือไม่เกินวัยกลางคน มีกำลังวังชา คล่องแคล่ว เรียนรู้และตัดสินใจเร็ว งานนี้เป็นงานที่หาได้ง่าย ที่ไหนที่มีร้านไทย เรียกได้ว่าสามารถเข้าไปสอบถามหรือสมัครได้เลยค่ะ






 งานเสริฟในร้านอาหารนี้เป็นที่หมายปองของเด็กนักเรียนไทย หรือคนที่มาวีซ่านักท่องเที่ยวก็สามารถทำได้ ไม่เน้นวุฒิการศึกษา การได้งานจะขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นทางร้านต้องการคนหรือไม่ เพราะตำแหน่งพนักงานเสริฟมีอายุแสนสั้้นค่ะ เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะอยู่กันแค่ 6 เดือนถึง 2 ปี เพราะเด็กนักเรียน เมื่อเรียนจบก็กลับไทยหรือบางคนมีปัญหาก็ย้ายร้าน ส่วนคุณสมบัติขอแค่ขยัน และพอพูดภาษาได้พอรู้เรื่อง ผู้จัดการร้านเขาก็รับแล้วคะ พอรับแล้วเขาก็จะเทรนให้ ร้านส่วนใหญ่จะไม่ได้จ่ายเงินให้ตอนเทรนงานนะคะ ถ้าเราเรียนรู้งานเร็ว เค้าก็จะปล่อยให้เราทำ ถึงตอนนี้เราก็จะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วล่ะคะ อ่านต่อทางนี้ค่ะ


วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

งาน แม่ครัว พ่อครัวในอเมริกา (Thai Cook)


ในอเมริกามีร้านอาหารไทยกระจายอยู่ทั่วทุกรัฐ ดังนั้นงานพ่อครัวและแม่ครัว นี้หละค่ะ จึงเป็นงานที่คนไทยทำกันมากที่สุด เพราะเป็นอาชีพที่มีงานรองรับอยู่มากมาย

คนไทยที่เพิ่งมาอเมริกาส่วนใหญ่จะมองหางานนี้เป็นหลัก ซึ่งหลายร้านก็รับคนที่ไม่มีใบอนุญาติเข้ามาทำงาน เนื่องจากแม่ครัวในอเมริกาหายากเหลือเกิน งานแม่ครัวนี้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สูง หรือมีความเชี่ยวชาญ หลายคนจากเมืองไทยเคยทำงานในตำแหน่งที่ดี เคยเป็นถึงผู้บริหาร มีเงินเดือนสูง เมื่อจะมาหางานในอเมริกาหลายคนยังยอมเป็นแม่ครัว พ่อครัวก่อนเลยค่ะ อ่านต่อทางนี้ค่ะ




Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...